เจ้าของเงิน53ล้าน มอบตัว ดีเอสไอ โดน2ข้อหา นอท กองสลากพลัส ส่งทนายแจงยิบเงิน39ล้าน

เจ้าของเงิน53 ล้าน ดอดมอบตัว ดีเอสไอ โดน2ข้อหา ยื่นประกันตัว 5 แสนปล่อยตัวชั่วคราว นอท กองสลากพลัส ส่งทนายความ ชี้แจงปมเงิน 39 ล้านบาท เส้นทางการเงิน 1,090 ล้านบาท ยันเป็นเงินถูกกฎหมาย นำมาลงทุนในสลากออนไลน์และชี้แจงได้ทั้งหมด

เมื่อวันที่ 26 ม.ค. 2566 ที่ศูนย์คดียาเสพติด กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ นายศุภชัย ทิพย์สิทธิ์ ทนายความของ นายพันธ์ธวัช นาควิสุทธิ์ หรือ นอท กองสลากพลัส เข้ายื่นเอกสารหลักฐานเพื่อชี้แจงรายละเอียดเส้นทางการเงิน 39 เส้นทาง มูลค่า 1,090 ล้านบาท ที่ ดีเอสไอ ตรวจพบว่า เป็นเงินที่มาจากธุรกิจผิดกฎหมาย โดย นายพันธ์ธวัช หรือ นอท ไม่ได้เดินทางมาด้วยตนเองและมอบหมายให้ทนายความมาชี้แจงกับ นายพงษธร อินอำนวย ผู้อำนวยการศูนย์คดียาเสพติดดีเอสไอ ในฐานะหัวหน้าพนักงานสอบสวน

หลังจากให้การนานกว่า 1 ชั่วโมง นายศุภชัย ทนายความของ นายพันธ์ธวัช บอกว่า วันนี้ได้ชี้แจงกับเจ้าหน้าที่ไปครบถ้วน พร้อมยืนยันว่า เงินจำนวน 39 เส้นทางการเงินที่เข้ามาในบัญชี เป็นเงินมาจากธุรกิจที่ถูกกฎหมาย สามารถชี้แจงได้ทั้งหมด และเป็นเงินที่เข้าออกอย่างปกติ ผ่านเข้ามาในบัญชีของ นายพันธ์ธวัช โดยตรง แต่เป็นเงินก้อนใหญ่จึงต้องมาชี้แจง และเงินทั้งหมดนำมาใช้ในการลงทุนธุรกิจ สลากออนไลน์ ของ กองสลากพลัส ส่วนจะเป็นเงินที่มาจากนายทุนของ นายพันธ์ธวัช หรือไม่ คงต้องรอ ดีเอสไอ ตรวจสอบ และหลังจากนี้ก็เป็นหน้าที่ของดีเอสไอ ที่จะรวบรวมพยานหลักฐาน เพราะก็สามารถชี้แจงได้ทั้งหมดแล้ว และไม่ได้กังวลว่า นายพันธ์ธวัช จะเข้าไปเกี่ยวข้องกับธุรกิจผิดกฎหมาย

เมื่อถามต่อว่านายพันธ์ธวัชมีความกังวลว่าในรายชื่อใดที่อยู่ในเส้นทางเงินดังกล่าว ที่อาจจะไปเกี่ยวข้องกับธุรกิจสีเทาหรือไม่ นายศุภชัย ปฏิเสธและยืนยันเต็มเสียงว่า ไม่มีครับ ส่วนหลังจากนี้คงต้องรอดูทางดีเอสไอก่อนว่าจะมีอะไรการเรียกสอบถามเพิ่มเติมหรือไม่ หากมีเรียก ทางคุณพันธ์ธวัชและตนก็ยินดีให้ความร่วมมือ ทั้งนี้ นายศุภชัย ยืนยันว่าเส้นทางการเงิน 39 รายการนั้นสามารถชี้แจงได้หมด และเป็นเงินที่มาจากธุรกิจที่ทำโดยชอบด้วยกฎหมายแน่นอน

ขณะที่ นางสาวพิทยาภรณ์ ชูรัตน์ รองโฆษกดีเอสไอ เปิดเผยความคืบหน้าทางคดี ว่า วันนี้ นายพันธ์ธวัช ได้ส่งให้ทนายความมาชี้แจงแทน และมอบหลักฐานข้อมูลเส้นทางการเงินดังกล่าวให้กับพนักงานสอบสวน ซึ่งหลังจากนี้ ก็ต้องตรวจสอบหลักฐานที่ทนายความนำมามอบให้ว่าจะสามารถชี้แจงข้อสงสัยที่พนักงานสอบสวนมีอยู่หรือไม่ และหากยังชี้แจงไม่ชัดเจนก็จะออกหมายเรียกมาให้ข้อมูลอีกครั้ง และหากการชี้แจงเส้นทางการเงิน 39 เส้นทางที่ นายพันธ์ธวัช ให้ข้อมูลไว้ไปถึงใคร ก็จะมีการเรียกบุคคลนั้นมาชี้แจงเพิ่มเติมด้วย แต่ต้องรอฟังทนายความชี้แจงคำให้การก่อน

นางสาวพิทยาภรณ์ กล่าวว่า ส่วนอีกหนึ่งคดีของ นายพันธ์ธวัช คือ คดีพิเศษที่ 288/2565 ซึ่งเป็นคดีแรกที่ ดีเอสไอ สืบสวนพบ เส้นทางการเงิน 53 ล้านบาท จากบัญชีม้าเว็บพนันออนไลน์โอนมาให้นายพันธ์ธวัชนั้น พนักงานสอบสวนได้สอบสวนไปทั้งหมดแล้ว และอยู่ระหว่างการพิจารณาข้อมูลหลักฐาน คำให้การว่าสอดคล้องกับหลักฐานที่ธนาคารส่งมาให้หรือไม่

แล้วจะแจ้งความคืบหน้าให้ทราบอีกครั้งในสัปดาห์หน้า ทั้งประเด็นเรื่องของเงิน 53 ล้านที่พบว่ามี บุคคลหนึ่ง ให้นายพันธ์ธวัช นำไปขึ้นเงินที่สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลด้วย ทั้งนี้ นายพันธ์ธวัช ยังอยู่ในฐานะพยานจึงยังสามารถเดินทางไปต่างประเทศได้ตามสิทธิเสรีภาพ เจ้าหน้าที่ไม่สามารถไปจำกัดสิทธิเสรีภาพการเดินทางได้ และหากตรวจสอบพบแล้วมีหลักฐานชัดเจนพบว่ากระทำความผิด ต่อให้ นายพันธ์ธวัช ปฏิเสธก็ต้องดำเนินคดี

นางสาวพิทยาภรณ์ กล่าวต่อว่า ข้อมูลเส้นทางการเงินจำนวน 53 ล้านบาท ที่ นายพันธ์ธวัช ชี้แจงไปก่อนหน้านี้ และจะมีการแถลงความชัดเจนจาก ดีเอสไอ ในสัปดาห์หน้านั้น จากการตรวจสอบพบว่า เงินจำนวนนี้ เป็นเงินที่ให้บุคคลคนหนึ่ง ชื่อย่อ อ. ไปขึ้นเงิน สลากกินแบ่งรัฐบาล ที่ถูกรางวัลรวม 2 ครั้งภายในวันเดียว ครั้งแรก 42 ล้านบาท และ 11 ล้านบาท ซึ่งคนที่ไปขึ้นเงินรางวัล จ่ายเงินเป็นแคชเชียร์เช็คให้กับนายพันธ์ธวัช และขณะนี้ นาย อ. ก็ถูกออกหมายจับ คดีร่วมกันฟอกเงิน และร่วมกันจัดให้มีการเล่นพนันออนไลน์ แต่ นาย อ. คนนี้ยังหลบหนีอยู่ ซึ่งดีเอสไอ ได้รับประสานมาว่าจะเข้ามอบตัวในเร็วๆ ด้วย

นางสาวพิทยาภรณ์ กล่าวอีกว่า สำหรับการสอบปากคำนานพันธ์ธวัช เรื่องจำนวนเงิน 53 ล้านบาท เมื่อวันที่ 13 ม.ค.นั้น พยานหลักฐานของพนักงานสอบสวนคดีพิเศษพบว่าค่อนข้างมีความชัดเจน และข้อเท็จจริงชัดเจนแล้ว ขั้นตอนหลังจากนี้ต้องให้คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษร่วมกันประชุม เพื่อลงมติว่าจะมีการแจ้งข้อกล่าวหาแก่นายพันธ์ธวัชหรือไม่ ดังนั้น ประชาชนจะได้ทราบผลสรุปเรื่องเงิน 53 ล้านบาท ที่ นายพันธ์ธวัช รับมาจาก “นาย อ.” ก่อน

ในขณะที่เส้นทางการเงิน 39 รายการ ยังคงต้องใช้เวลาในการรวบรวมพยานหลักฐานและขยายผลต่อไป และในคดีเดียวกับจำนวนเงิน 53 ล้านบาทของ นายพันธ์ธวัช ยังมีอีก 7 บัญชี เป็นเงินรวมกว่า 1,000 ล้านบาท ที่ดีเอสไอออกหมายเรียกมาให้ข้อมูลถึงเส้นทางการเงิน ซึ่งเป็นกลุ่มธุรกิจร้านอาหาร ก็ได้มาให้ข้อมูลแล้ว 4 คน มีหนึ่งในนั้นคือ ดีเจกฤษ

ส่วนอีก 3 คน ไม่มาให้การจึงขอศาลออกหมายจับ และตามจับมาได้แล้ว 1 คน ส่วนอีก 2 คนยังหลบหนี โดยในคดีสอบเส้นทางเงิน 53 ล้านบาทของ นายพันธ์ธวัช และกลุ่มธุรกิจร้านอาหารกว่า 1,000 ล้านบาท พนักงานสอบสวนเตรียมสรุปสำนวนคดีส่งให้อัยการพิจารณาสั่งฟ้องคดีภายในเดือนกุมภาพันธ์นี้ เพื่อให้ทันภายในกรอบระยะเวลาฝากขังของผู้ต้องหาที่ถูกจับมาได้ตั้งแต่เดือนธันวาคม 2565

ต่อมาเวลา 14.50 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีบุคคล 2 ราย ได้เดินทางเข้าห้องศูนย์คดียาเสพติด เพื่อพบและพูดคุยกับนายพงษธร อินอำนวย ผอ.ศูนย์คดียาเสพติด คาดว่าเป็น “นาย อ.” ซึ่งเป็นเจ้าของเงินจำนวน 53 ล้านบาท ที่โอนเข้าบัญชีธนาคารของ นอท กองสลากพลัส และก่อนหน้านี้นั้น ไม่ได้เข้าให้การในฐานะพยาน หลังจากที่ดีเอสไอออกหมายเรียกไปสองครั้ง จึงได้ติดต่อมายังนายพงษธร ว่า จะเข้ามอบตัวภายในวันนี้

ต่อมาเวลา 15.10 น. ภายหลังที่ “นาย อ.” เข้ามอบตัวกับพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ผู้สื่อข่าวได้สอบถามว่า ใช่คุณอัฐกานต์หรือไม่ โดยบุคคลดังกล่าวได้ปฏิเสธว่า ไม่ใช่ครับ เมื่อถามต่อว่า มาในกรณีใด เนื่องจากเห็นว่าได้เข้าไปในห้องศูนย์คดียาเสพติด จากนั้นบุคคลข้างกายซึ่งสวมเสื้อยืดสีฟ้าได้กล่าวแทนว่า “มาเป็นพยานเฉยๆ เขาเรียกมาสอบถาม” นอกจากนี้ นาย อ. ยังระบุด้วยว่า ตนไม่รู้จักกับนายนอท แต่อย่างใด พร้อมอ้างว่าตัวเองนั้นชื่อ อ๊อด ไม่ได้ชื่ออัฐกานต์ หรือ เฟย

รายงานข่าวแจ้งว่า พนักงานสอบสวนได้แจ้ง 2 ข้อกล่าวหา นายอัฐกานต์ ภายหลังจากเข้ามอบตัวคือ 1.ร่วมกันฟอกเงิน และ 2.ร่วมกันจัดให้มีการเล่นพนันออนไลน์ จากการสอบปากคำเบื้องต้นยอมรับว่ารู้จักกับนายพันธ์ธวัช จริงแต่รู้จักได้ไม่นาน โดยผู้ต้องหาให้การปฏิเสธ และขอยื่นพยานหลักฐานและเอกสารเพิ่มเติมภายหลัง จากนั้นได้ยื่นขอประกันตัวชั่วคราวในชั้นพนักงานสอบสวน ซึ่งรองอธิบดีดีเอสไอได้อนุญาตให้ประกันตัวในวงเงิน 5 แสนบาท และกำหนดเงื่อนไขห้ามเดินทางออกนอกประเทศ

Cr.sanook

ไม่ถอยหวยออนไลน์! กองสลากเปิดชิมลางให้เล่นบนเว็บต้นปี 63 รอเคาะผลสรุปเกมเดียว

วันที่ 20 ธ.ค. นายพชร อนันตศิลป์ อธิบดีกรมสรรพสามิต ในฐานะประธานกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล เปิดเผยว่า คณะกรรมการศึกษาการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ ที่มีนายธนวรรธน์ พลวิชัย กรรมการสลากฯเป็นประธาน จะพิจารณาแนวทางเปิดให้ประชาชนทดลองซื้อ เล่นเกมสลากออนไลน์รูปแบบใหม่ผ่านเว็บไซต์ ภายในไตรมาส 1 ปี 2563 หลังจากเดิมที่คาดว่าจะเปิดให้ทดลองเล่นได้เดือน ม.ค.2563 เพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ให้กับคนไทย แต่ไม่สามารถสรุปได้ทัน เพราะคณะกรรมการขอเวลาอีก 1-2 เดือน เพื่อสรุปว่าควรดำเนินการหรือไม่ และถ้าจะทำ ควรทำรูปแบบเกมใด

“ในไตรมาส 1/2563 คณะศึกษารูปแบบเกม จะส่งผลการพิจารณาให้คณะกรรมการสลากชุดใหญ่พิจารณา ว่า ควรเปิดให้ทดลองเล่นเกมใหม่บนเว็บไซต์หรือไม่ ถ้าทำจะให้ทดลองเล่นเกมใดบ้าง ซึ่งเดิมสลากต้องการให้เล่นทุกรูปแบบ ทั้งเลข 6 ตัว , เลข 4 ตัว , เลขท้าย 3 ตัว , 2 ตัว รวมถึง ผลิตภัณฑ์ใหม่ เช่น สลาก 12 นักษัตร แต่ข้อสรุปล่าสุด เห็นว่าควรเป็นรูปแบบเกมเดียว เพื่อไม่ให้ประชาชนเกิดความสับสน ก็ขึ้นอยู่กับคณะศึกษาว่า จะเลือกรูปแบบเกมใด”

นายพชร กล่าวต่อว่า หากคณะกรรมการเห็นชอบ ก็จะเปิดให้ทดลองเล่นเกมสลากออนไลน์บนเว็บไซต์ไปสักระยะหนึ่ง เพื่อเป็นการทดลองระบบ และดูว่า ข้อดี ข้อเสีย ผลกระทบกับสังคม และผู้ที่เกี่ยวข้องมีอะไรบ้าง เพื่อให้คณะทำงานไปรวบรวมข้อสรุปทั้งหมด ก่อนตัดสินใจว่าจะยังมีการเดินหน้าขายจริงสลากออนไลน์ต่อไปหรือไม่ รวมทั้งได้สั่งการให้คณะศึกษา ไปพิจารณา รูปแบบเกมการเล่น การจ่ายเงินรางวัล การจูงใจ เงื่อนไขสลากต่างๆ ว่าจำเป็นต้องมีหรือไม่ ถ้ามีควรจะเป็นในลักษณะใด เพื่อไม่ให้มีผลกระทบ หรือ ให้ภาคสังคมเข้าใจคลาดเคลื่อน

“การขายสลากแบบออนไลน์ ไม่มีปัญหาในการจ่ายรางวัล ซึ่งเป็นไปตาม พ.ร.บ.สลากกินแบ่งรัฐบาล ที่กำหนดสัดส่วน 60% นำส่งเป็นรายได้แผ่นดินไม่น้อยกว่า 23% และค่าใช้จ่ายในการบริหารและจัดจำหน่าย ไม่เกิน 17% ของรายได้จากยอดขาย แต่ก็ได้เน้นย้ำกับคณะทำงานไปว่า ไม่ว่าจะเป็นการขายสลากแบบใบ หรือแบบออนไลน์ กลุ่มผู้พิการ องค์กร มูลนิธิเพื่อสังคมต่างๆ จะต้องมีส่วนร่วม เพราะจากการไปสอบถาม กลุ่มผู้พิการ ไม่ได้ต้องการให้จัดสรรเงินรางวัล แต่ต้องการมีส่วนร่วมในการขายสลาก

นอกจากนี้ การขายแบบออนไลน์ และทดลองให้เล่นบนเว็บไซต์ยังมีข้อดี คือ แก้ปัญหามอมเมา สามารถกำหนดกลุ่มเป้าหมายที่สามารถซื้อสลากได้ เช่น อายุไม่ต่ำกว่า 18 ปี ควบคุมการขายเกินราคา หรือแม้แต่กำหนดให้ผู้ซื้อจะต้องอยู่ในข้อมูลผู้เสียภาษีให้ถูกต้อง เพื่อวัตถุประสงค์ ให้สามารถนำเงินจากการขายสลากในบางงวด ไปใช้อุดหนุน ช่วยเหลือ ได้เช่น กลุ่มลูกจ้างที่อยู่ในฐานข้อมูลของสำนักงานประกันสังคม เป็นต้น ในลักษณะเดียวกันกับต่างประเทศที่ดำเนินการอยู่

นายพชร กล่าวอีกว่า สำหรับการแก้ไขปัญหาจำหน่ายสลากเกินราคา โดยปัจจุบันนี้มีเพดานการพิมพ์สลากที่ 100 ล้านฉบับ เป็นระบบจอง-ซื้อ 67% และ ระบบโควตาเดิม สำหรับผู้พิการ มูลนิธิ 33% ซึ่งยอมรับว่า หากยังมีการขายสลากแบบใบ ก็ยังแก้ไขปัญหาเกินราคาได้ยากลำบาก แม้จะมีมาตรการพิมพ์สลากแบบคละเลข 2-2-1 รวมถึงลดจำนวนวันขายสลากแล้วก็ตาม เพราะสลากใบสามารถส่งต่อได้ ผู้ซื้อยินดีซื้อสลากแพง ผู้ขายยังสามารถขายรวมชุดเกินราคาได้ โดยในปี 2563 สำนักงานสลาก จะเข้มงวดในเรื่องการติดตาม ตรวจสอบ ตัวแทนขายสลากมากขึ้น ให้ขายในราคา เช่น การตรวจสอบผ่านระบบบาร์โค๊ด เป็นต้น

ที่มา:ข่าวสด

กองสลากโต้ถังแตก ออกหวยนักษัตร เจอรุมเบรก ระวังเจอนักษัตรใต้ดิน

หวยนักษัตร

หวยนักษัตร – วันที่ 1 ส.ค. นายพชร อนันตศิลป์ ประธานกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล เปิดเผยว่า การออกผลิตภัณฑ์สลากรูปแบบใหม่ ในรูปแบบสลากภาพ 12 นักษัตร จำหน่ายผ่านระบบออนไลน์ ที่ผ่านการพิจารณาของคณะกรรมการสลากฯ เมื่อวันที่ 31 ก.ค.2562 ที่ผ่านมา ยืนยันว่า ไม่ได้เป็นการออกสลาก เพื่อเน้นหารายได้ให้กับรัฐบาล

ไม่ใช่ประเด็นสำคัญ และไม่สนว่ารายได้จากการขายสลากจะมีจำนวนเท่าไหร่จะ จะเป็นกี่พันล้านบาท หรือกี่หมื่นล้านบาทก็ไม่ได้สนใจ การดำเนินการเรื่องนี้ เนื่องจาก พ.ร.บ.สำนักงานสลากกินแบ่งฉบับใหม่มีผลบังคับใช้ ทำให้กองสลากมีอำนาจในการคิดผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ได้

พ.ต.อ.บุญส่ง จันทรีศรี ผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล เปิดเผยว่า การออกสลากภาพ 12 นักษัตร ไม่ได้เกี่ยวกับรัฐบาลจะถังแตก แต่เป็นการดำเนินการ ตาม พ.ร.บ.สลากฉบับใหม่ ในมาตรา 7/1 ให้อำนาจสลาก ออกผลิตภัณฑ์ใหม่ ทำให้คณะกรรมการสลาก ต้องทำงานตามกฎหมายและหากรูปแบบผลิตภัณฑ์อื่นๆ เสนอให้คณะรัฐมนตรี เห็นชอบ

เนื่องจากรูปแบบการเล่นสลากในปัจจุบันเปลี่ยนไป และพิจารณาเทียบเคียงกับในหลายประเทศ ก็มีการออกสลากหลายรูปแบบ คณะกรรมการสลากก็ต้องพิจารณาสลากที่ปรับเปลี่ยนตามยุคสมัย

นอกจากนี้ ยืนยันว่าการที่ที่ประชุมคณะกรรมการเมื่อวันที่ 31 ก.ค.พิจารณาเห็นชอบในหลักการ ให้ออกสลากภาพ 12 นักษัตร เป็นเรื่องที่มีอำนาจกระทำได้ เพราะตามคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) มีการระบุว่าคณะกรรมการชุดปัจจุบัน จะหมดวาระก็ต่อเมื่อมีการตั้งคณะกรรมการชุดใหม่ขึ้นมาแทน

อีกทั้งที่ประชุมสลาก ก็เป็นเพียงเห็นชอบในหลักการให้ดำเนินการ แต่ไม่ได้มีอำนาจจะตัดสินใจว่าจะทำหรือไม่ทำ เพราะตามขั้นตอนทางกฎหมาย จะต้องมีการประชาพิจารณ์ รับฟังความเห็น ก่อนจะสรุปแนวทางทั้งหมดเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เป็นผู้อนุมัติ

ระวังเจอนักษัตรใต้ดิน

นายวิษณุ วงศ์สินศิริกุล นักวิชาการเศรษฐศาสตร์ ด้านการศึกษาอุตสาหกรรมการพนัน เปิดเผยว่า การออกสลากภาพ 12 นักษัตรจะแก้หวยใต้ดินไม่ได้แน่นอน เพราะแบบหนึ่งเป็นภาพ อีกแบบเป็นตัวเลขทดแทนกันไม่ได้ รวมถึงที่บอกว่าจะช่วยแก้ปัญหาพนันออนไลน์

รวมถึงสลากฯเกินราคาก็ทำไม่ได้อีกเช่นกัน เพราะนิสัยคนเล่นสลากออกไลน์ ต้องการรู้ผลเร็ว และเล่นบ่อยๆ ครั้ง ไม่น่าอยากซื้อสลากนักษัตรที่ออกเดือนละ 2 ครั้ง ดังนั้นหากภาครัฐต้องการแก้ปัญหาหวยใต้ดินจริง ควรจะทำสลากเป็นตัวเลข 2 ตัว 3 ตัว หรือฟื้นหวยบนดินขึ้นมา จะช่วยดึงเงินจากนอกระบบขึ้นมาอยู่ในระบบได้มากกว่า

นอกจากนี้อยากให้สำนักงานสลากฯ ชี้แจงข้อมูล และเหตุผลการออกสลากใหม่ให้สังคมรับรู้อย่างตรงไปตรงมา ว่าต้องการได้เงินเท่าไร และนำรายได้ที่ได้มาไปทำอะไร เพื่อให้สังคมเข้าใจ ไม่สับสน ไม่ใช่พูดจาไปแล้วขัดแย้งกันเอง เช่น บอกจะไม่กระทบต่อคนขายลอตเตอรี่ แต่อีกสักพักบอกว่าจะช่วยแก้ปัญหาลอตเตอรี่เกินราคาได้

ด้านนายธนากร คมกฤส ผู้อำนวยการเครือข่ายรณรงค์หยุดพนัน กล่าวว่า สลากภาพ 12 นักษัตร ไม่ได้ช่วยแก้ปัญหาหวยใต้ดิน หรือสลากเกินราคาขายได้เลย และยังอาจเพิ่มการพนันรูปแบบใหม่มอมเมาสังคมขึ้นอีก เนื่องจากสำนักงานสลาก ไม่ได้ลดการพิมพ์สลากใบหรือลอตเตอรี่ลง ยังพิมพ์งวด 100 ล้านใบเหมือนเดิม และถ้าเกมใหม่ออกมาจะทำให้คนไทยต้องหมดเงินกับการเล่นสลากฯมากขึ้น

ดังนั้นหากภาครัฐต้องการแสดงความรับผิดชอบปัญหาการพนันต่อสังคมจริง ควรลดการพิมพ์สลากใบลงเหลืองวดละ 50 ล้านใบ ให้เท่ากับจำนวนคนที่อายุเกิน 20 ปีที่มีสิทธิซื้อได้

นอกจากนี้เห็นว่าการออกสลากภาพเป็นคนละเรื่องกัน เทียบกับหวยใต้ดินไม่ได้ และน่ากลัวว่าถ้าเจ้ามือหวยใต้ดินปรับตัวลุกขึ้นมาทำสลากภาพ 12 นักษัตรแบบใต้ดินแข่งด้วย โดยทำให้เล่นง่ายกว่า รางวัลสูงกว่า มีระบบเงินเชื่อ สำนักงานสลากจะทำอย่างไร เพราะจะยิ่งทำให้ระบบการพนันใต้ดินเติบโตขึ้นมากกว่าเดิมอีก

หากต้องการปราบหวยใต้ดิน ควรให้เจ้าหน้าที่ตำรวจไปไล่จับบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด จะใช้วิธีโจรจับโจรคงไม่ได้ เพราะยิ่งเพิ่มโจรในสังคมมากกว่าเดิม ที่สำคัญอยากให้รัฐบาลพิจารณาออกสลากฯใหม่ให้รอบคอบ ปฏิบัติตามกฎหมายทุกขั้นตอน เพื่อเป็นบรรทัดฐานสำหรับการออกเกมใหม่ๆ ในอนาคตด้วย เพราะตอนนี้ไม่เห็นพูดถึงการศึกษาผลกระทบทางสังคมจากการออกสลากฯ 12 นักษัตรเลย ทั้งที่กฎหมายมีบอกให้ทำ

แก้ปัญหาหวยใต้ดินไม่ได้

นายชัยวัฒน์ ระวีแสงสูรย์ นายกสมาคมผู้ค้าสลากออนไลน์ไทยและสลากกินแบ่งไทย กล่าวว่า เห็นด้วยที่สำนักงานสลากฯ คิดออกผลิตภัณฑ์สลากฯใหม่เพื่อต้องการดูดเงินจากเกมพนันใต้ดินขึ้นมาบนดิน

แต่ไม่แน่ใจว่าการออกสลากภาพ 12 นักษัตร จะตอบโจทย์ หรือแข่งกับหวยใต้ดินได้ เพราะหวยใต้ดินมีระบบที่จูงใจมากกว่า ทั้งเงินรางวัลที่สูง ซื้อได้ง่ายผ่านคนรู้จัก รวมถึงยังมีระบบเชื่อเงินซื้อก่อนจ่ายทีหลังได้ ซึ่งไม่รู้ว่าถ้าสลาก 12 นักษัตรแล้วจะขายได้มากน้อยแค่ไหน

อย่างไรก็ตาม หากสำนักสลากฯมีการทำเกมใหม่ขึ้นมาจริง ควรเปิดโอกาสให้ตัวแทน ผู้ค้ารายย่อยเข้าไปมีส่วนรวมในการขายทุกๆ เกม อย่าปิดกั้นทำเองขายเองคนเดียว เพราะผู้ค้าส่วนใหญ่มีอาชีพขายสลากกันมานาน จึงอยากให้ช่วยดูแลด้วย

ให้มีความชัดเจนว่า ใครจะเข้ามามีส่วนรวมได้บ้าง ไม่ว่าจะตัวแทนที่ลงทะเบียนสลากออนไลน์เก่า ตัวแทนผู้ขายลอตเตอรี่ รวมถึงผู้ขายหน้าใหม่ที่อยากขายสลากฯว่า จะทำได้หรือไม่ หรือควรรับที่เท่าไร

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ส่วนกระแสในฝั่งขอผู้ซื้อผ่านสื่อสังคมออนไลน์ ก็สนับสนุนให้สำนักงานสลากฯ มีการออกเกมสลากใหม่เพิ่ม เพื่อเพิ่มทางเลือกในการเล่น แต่ก็ไม่เชื่อว่าสลากภาพ 12 นักษัตรจะช่วยแก้ปัญหาหวยใต้ดินได้

เพราะเป็นสิ่งที่อยู่คู่สังคมไทยมานาน และอยากเสนอให้ภาครัฐมีการเพิ่มรางวัลลอตเตอรี่เพื่อจูงใจให้คนเล่นหวยใต้ดินน้อยลง หันมาซื้อลอตเตอรี่เพิ่มแทน รวมถึงการทำสลากฯ 2 ตัว 3 ตัว แบบหวยใต้ดินออกมาให้เล่นเลย

ที่มา:ข่าวสด